แนวทางแต่งเพลงของครูสลา

แนวทางแต่งเพลงของครูสลา แนวเพลงที่เขียนกันอยู่ทุกวันนี้ อ.สลา แยกเป็นแบบนี้ - แนวอนุรักษณ์ - แนวก้าวหน้า - แนวใหม่ แนวกลาง ๆ แนวเก่า ทุกแนวที่กล่าวมา หัวใจของทุกแนวคือ ความไพเราะของเพลง ๆ นั้น ซึ่งจะตอบโจทย์ ของผู้ฟังที่ตั้งใจฟังเพลงได้ดีเพียงไร ทำอย่างไร เพลงถึงจะดี และจะไพเราะ 1.เคารพครูบาอาจารย์ ผู้อาวุโส ทุกคนที่เขียนเพลงไว้ท่านทั้งหลายคือครูเรา 2.เป็นนักฟังที่ดี ไม่มีอคติกับเพลงทุกชนิด ทุกแนว ฟังให้มาก ฟังแบบธรรมชาติ ฟังทุกสไตล์ 3.อย่าเชื่อมั่นตัวเองมากไป หรือดูถูกตัวเองมากไป แล้วทุก ๆ อย่างจะไม่พัฒนา 4.อย่ากลัวที่จะนำเสนอ และอย่าคลาดหวังอะไรมากกับผลที่จะตามมา วรรคทอง คือ เป็นคำง่าย ๆ แต่ งาม เช่น แต่งเพลงอย่างไรให้ 2 บรรทัดแรกให้ได้ใจความเลย เพลงจะประสบความสำเหร็จมากกว่า นำเพลงของครูเพลงที่ดีและดังมาวิเคราะห์หรือเรียกว่าการผ่าเพลง ตั้งคำถามว่า ทำไมคนชอบเพลงนี้ เราชอบเพลงนี้ - ชอบที่ตัวนักร้อง - ชอบเนื้อเพลง - เนื้อเพลงพูดถึงอะไร - คำไหนชอบที่สุด ฟังจนจบแล้วจดหรือจำไว้ว่าคำไหน ดี และชอบ - คำที่ดีนั้นวางไว้ตรงไหน ของท่อน - แล้วกลับไปดูงานของตัวเองที่เขียนไว้แล้วเปรียบเทียบกัน จะมองเห็นข้อดีข้อด้อยชัดขึ้น คำ กับ ทำนอง ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด มีสิ่งที่สำคัญอีกมาก - เรื่องที่นำมาเล่า ถ้าเป็นเรื่องเก่าต้องเป็นมุมมองใหม่ - เอาคำที่คิดว่าดี และโดนมาตั้งต้นแล้วหาเรื่องมาเล่าต่อ อาจจะดีหรือไม่ดี ก็ได้ - หาคำและทำนอง อย่าไปเลียบ ๆ เคียง ๆ ของคนอื่น จะทำให้ดูเสียราคา ควรหาใหม่ ๆ หรือก็อย่าให้คนฟังได้ยินแล้วไปนึกถึงทำนองของอีกเพลง - การเล่าเรื่อง การเขียนเพลงก็คือการเล่าเรื่อง อย่างเช่น เราเจอแรงบันดาลใจสิ่ งหนึ่งเข้า แล้วเก็บมาเล่า บางคนอาจเล่า เป็น หนัง กลอน เขียนเรื่องสั้น ถ้าเรื่องนั้นใหญ่หน่อย ก็ทำเป็นนิยาย แต่ก็อย่าไปบังคับข่มขืนเรื่อง ๆ นั้น ให้เป็นเนื้อเพลงทั้งหมดควรแยกว่าเรื่องนั้นน่าจะเล่าหรือเขียนเป็นอะไรดีกว่ากัน วิธีการเล่าเรื่องแบบเป็นเพลง - เขียนเป็นแนวทาง 1 2 3 4 1.ขึ้นต้นโดนใจ - เรื่องที่เจอมา ต้องตั้งชื่อก่อน - โดนใจด้วยถ้อยคำ -โดนใจด้วยทำนอง เช่นเอาเพลงเร็วมาทำช้า ช้าเป็นเร็ว - ถ้าขึ้นต้นโดนใจทั้งคำและทำนอง ก็จะได้เปรียบ ยกตัวอย่างเพลง เสียความรู้สึก ของสายัญ สัญญา - อาจจะเล่าเรื่องที่เป็นศิลปเพียว ๆ หรือ รวมกับแรงบันดาลใจ ก็จะดี ยกตัวอย่างเพลงที่ขึ้นต้นแล้วโดนทั้งคำและทำนอง คือ เพลง โชคดี ครับแฟน ของ ศรเพชร 2.เนื้อในต้องคมชัด เนื้อเรื่องเล่าต้องไม่วกไปเวียนมา ไม่ใช้คำที่ซ้ำกันมาก จะไม่ดี แบบนั้นเขา แสดวว่า ตันไปไหนไม่ได้ เช่นคำ หนอ หนา แต่ถ้าใข้แล้วทำให้เกิดเสน่ห์ก็พอ ใช้ได้บ้าง 3.ประหยัดคำในเนื้อใน คำทุกคำต้องมีความหมายในตัว ต้องทำงาน ต้องมี ประโยชน์ ไม่มีคำขี้เกียจ คือคำที่ไม่มีความหมาย คำที่เล่าต้องเล่าทั้งอารมณ์ ของคำด้วย และต้องคิดด้วยว่าคำ ๆนั้นสมควรนำมาเล่าหรือเปล่ามาใช้แล้วเหมาะ หรือเปล่า ควรศึกษากลอนแปดให้ดีและ ฝึกเขียนให้สัมผัสนอกใน สัมผัสระหว่างบท ต้องมี ถึงจะเป็นเพลงลูกทุ่งที่สมบูรณ์ 4.ให้คนฟัง ฟังแล้วคิดว่าเพลงนั้นเป็นเพลงของเขาเอง เช่นเรื่องที่ทุกคนฟังแล้วรู้สึกและซืมซับมันได้ทุกคน เช่นคงเคยได้ยินหรือเราเคยได้ยินเพลงแล้วพูดชึ้นว่า เพลงนี้เข้ากับตัวเองกับตัวเราจังเลย หรือ เข้ากับชีวิตเขา ชีวิตเรา นั้นคือเรื่องดี ๆ ทำให้คนฟังรู้สึกร่วมกับเรา 5.จบเรื่องราวอย่างประทับใจ คือคนที่หันมาฟังเพลงที่เราเขียน หรือเขาสนใจเพลงเราแล้ว จะต้องทำให้เขาได้รับความสุขความสมหวังที่ได้ฟัง จบด้วยความสุข ความหวัง หรืออาจจบด้วยคำถาม การจบของทำนอง ก็อยู่ที่ความลงตัว ว่าสมควรจะจบตรงไหน การเพลงต้องมีหลักอื่นอีก เช่น - คอนเซ็บ ของงาน ของเพลง ของนักร้อง - คำในใจ เช่นความสูญเสีย - เอาคำที่เป็นนามธรรม สามารถจับ แตะต้องได้ - การหาทำนอง อาจได้มาจากการฮัมออกมาก่อน แล้วบรรทึกไว้ นำไปใส่คอร์ด ถ้าเล่นดนตรีเป็น ก็มีคนเคยทำ ยังทำกันอยู่ - เล่าเรื่องพื้น ๆ ง่าย ๆ - หาคำหัว คำหางก่อนการเขียนก็ได้ - เขียนเพลงเป็นภาษาพูด หรือเขียนเพลงเป็นภาษาเขียน - แรงบันดาลใจ บริสุทธิ์ - ลูกลัก ลูกหลั่น ลูกโกงทำนองเพลง สรุป 1.หาเรื่อง จะได้เรื่องมาอย่างไร - จากการอ่านหนังสือ -จากการคุยกับเพื่อน คน รอบข้าง -จากการเดินทาง เพียงแต่ว่าเรื่องที่จะนำมาเขียนอย่านำมาทั้งดุ้น ต้องดัดแปลงบ้าง วัตถุดิบ จะได้มาจากการใช้ชีวิต ง่าย ๆ เพราะเพลงจะมาจากการใช้ชีวิตของผู้คน 2.การนำเพลงไปใช้ ใช้กับใคร ให้ใคร ขายใคร บริษัทมาตรฐานที่เขาเลือกใช้เพลงหรือนักแต่งเพลงกันอยู่มีดังนี้ - เอาตัวนักร้องเป็นหลัก แล้วเลือกเพลงให้ตรงกับนักร้อง เขาแต่งตัวอย่างไร นิสัย บุคคลิก เป็นอย่างไร แล้วจึงหาเพลง - เขาจะเอาเพลงจากนักแต่งเพลงของบริษัทก่อน เพราะมีบุญคุณกันอยู่ - เขาหาจากเพลงที่มีคนส่งเข้าไปให้เลือก บริษัทเคลื่อนตัวไม่มีหลักตายตัว - ติดต่อครูเพลงโดยตรง ขอซื้อเพลง นักแต่งเพลงหน้าใหม่จะถูกเลือกต่อเมื่อ 1.เพลงที่ส่งไป ฟังแล้วนำไปเป็นเพลงเต็งหรือเพลงโปรโมทได้ ดี พอเขาฟังแล้วโดน ใช่เลย นำไปอยู่ที่ 1 2 3 ของหน้าหนึ่งได้เลย 2.ต้องแต่งเพลงที่เขาฟังแล้วไม่เอาไม่ได้ เวลาเขียนเพลงตอนไหนดีที่สุด ไม่มีอะไรตายตัว ขอให้ออกมาดี และเพราะ - ให้เวลากับความคิดมากกว่าการเขียน -อย่าหยิบเอาเรื่องเขียนเร็วเขียนช้ามาเป็นข้ออ้าง - สุขภาพต้องดี - สมาธิต้องได้ - มีใจอยากเขียน มือถือเนี่ย ส่วนใหญ่เล่นกันในกลุ่มลูกทุ่งนะกิจ... เล่นมานานแล้วด้วยไม่เชื่อไปดูที่ห้อง artist ดิ.. ทีไอ้บ้าที่ไหนไม่ไรู้เอาเนื้อเพลงมาโชว์ เรื่องโทรศัพท์เหมือนกัน ผมพยายามเขียนเรื่อง email แต่มองๆดู เอ..... ลูกทุ่ง คงต้องรออีกสักพัก ไม่นานนักก็คงเขียนเรื่อง Email ได้ ทีนี้ว่าเรื่องเนื้อกันนะ ในความเห็นผมครับ จริงแล้วการเขียนเนื้อไม่ว่าแนวไหน หากจะให้มันโดนหรือมัน Mass ก็ต้องหยิบเรื่องราวที่เห็นกันชัดๆไม่เพ้อฝันมากนัก หากเป็นร๊อคก็อาจเขียนเรื่องราวที่มันแรงหน่อย ประชดประชันบ้าง อย่างเพลงของวงโง่เต็ม(ที่แตกไปแล้ว) เนื้อเพลงประชดประชัดนกันมันส์ดี แต่สะใจสะหูสะปากคนร้องและคนร้องตาม หากเพลง Pop (ตามสมัยนิยมที่เรียกกัน) ก็จะมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาเล่นแบบนิ่มลงมาหน่อย คำพูดก็ดูมีฟอร์มเล็กน้อย อย่างเพลงของ Ottyfun ที่เคยเอาโพสไว้นานแล้วเน้อร้องที่ว่า อยู่ก็ู้เจ็บช้ำจากก็ปวดร้าว หรืออย่าง ฉันคงไม่อาจทำให้เธอเปลี่ยนใจอันนี้ผมว่ามันบอกความรู้สึกที่ว่า โอ้โห มันโดน... ตีหัวเต็มๆ หรืออาจจะมีคำศัพท์ในแต่ละยุค อย่างเพลงที่เอาใจวัยรุ่นก็จะเป็นอีกอย่าง คนโตหน่อยก็อีกอย่าง และสามารถแยกแยะได้ค่อนช้างชัดเจน -เพื่อชีวิตก็ต้องหยิบเรื่องราวสังคมโดยรวมมาตีแผ่หรือพวกความฝันจินตนาการ แบบกวีแต่หากต้องการ Mass หน่อยก็คงกวีมากไม่ได้ อย่างเพลงของพี่แอ๊ดหลายเพลง Mass มากๆ ในชุด Made in Thailand เพลง ราชาเงินผ่อน ตอนนั้น ใครฟังก็โห... นี่มันตูนี่หว่า (ก็ผ่อนของทั้งบ้าน )หากเพลงที่มีความหมายลึกๆ อย่าง ทะเลใจ เพลงนี้โดยส่วนตัวผมชอบวิธีเขียนของพี่แอ๊ดมากครับ ลองไปหาฟังดู -ลูกทุ่ง จะจินตนาการจากเรื่องราวจริงๆ เหตุกาณ์ที่คนทั่วๆจะประสพได้ตรงๆ โดยใช้คำพูดชัดเจนไม่อ้อมค้อมโดยมีวลีเด็ดๆ อย่าง กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง ร้องเท้าหน้าห้อง รักจางที่บางปะกง สายเ่ดี่ี๋ยวเสียวหลุด ฯลฯ มาเขียนเป็นชื่อเพลงและเนื้อหา หรือไม่ก็ เอาเรื่องรันทดของชีวิตคนชั้นล่าง ผู้ใช้แรงงาน มาเขียน เพราะฐานคนฟังส่วนใหญ่จะเป็นพวกนี้ แม้ว่าบางคำอาจจะดูเชยๆในสายตาคนบางกลุ่มหรือแม้แต่คนเขียนเอง อย่างเพลงเกี่ยวกับ มือถือ ที่กิจพูดถึง ลูกทุ่งเยอะมากๆครับ แล้วแต่ละเพลงเขียนออกมา โห.... แค่เรื่องมือถือเรื่องเดียวก็เกือบร้อยเพลงแล้วล่ะ แต่ต่างกันที่มุมมอง แต่ที่ต่างจากเพลงแนวอื่นอย่างมากก็คือ เรื่องการเขียนคำสัมผัส ต้องถูกต้อง หนีได้ไม่มาก -ไม่ว่าจะเป็นแนวไหน ก็มีวิธีที่ต้องคิดและมองให้เห็นสิ่งที่จะเขียนทั้งนั้นครับ อาจจะนำเสนอสิ่งใหม่ๆเข้าไปได้บ้างไม่มากก็น้อย และยิ่งหากจะต้องการให้เพลงประสพความสำเร็จในแง่ของการตลาด ก็ต้องมองให้ขาดเลยว่าจะเล่นอะไรเป้าหมายคือใคร หากต้องการในแง่ของศิลปล้วนๆไม่สนเรื่องการตลาดล่ะก็ ใส่ไปเข้าเลยครับ สร้างออกมาให้สวยงามไม่ว่่าจะเป็นแนวคิดหรืออะไรต่างๆ

2 ความคิดเห็น:

  1. ได้ประโยขน์มากครับ ชอบครูสลา มากๆ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากครู กับความรู้ ผมจะพัฒนา ทำตามความฝัน

    ตอบลบ