เรื่องราวครูสลา ตอนที่ 7.1 จดหมาย(ไม่)ผิดซอง

อ้างอิง: หนังสือเพลงชีวิต “ศิลปินครูบ้านป่า สลา คุณวุฒิ”
สำนักพิมพ์มิ่งมิตร เขียนโดย ชูเกียรติ ฉาไธสง , คมทัพแสง บรรณาธิการ แคน สาลิกา เรื่องราวครูสลา ตอนที่ 7.1 จดหมาย(ไม่)ผิดซอง โดย แคน สาลิกา : มีนาคม 2545
- ฝอยสีขาวแผ่คลุมตั้งแต่ริ้วเมฆจรดตีนฟ้า คือสายฝนสุดปลายฤดูที่เชื่อมต่อฤดูหนาว
ซึ่งกำลังจะมาเยือนในอีกไม่กี่วัน เมฆเทาหม่นคลื่นไปมาตามแรงลมกรรโชคกลางหยาดน้ำตกลงกระทบผืนดิน
อย่างไม่ขาดสาย เป็นเสียงเพลงฤดูกาลที่ผ่านไป และย้อนมาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่า - บ้านพักครูหลังนั้นดูโดดเดี่ยวกลางม่านฝน เสียงหยาดน้ำกระทบหลังคาบ้าน และกลิ่นหอมของดอนยามฝนตกใหม่ๆ ให้ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวสุดประมาณ นี่เป็นบ้านซึ่งสลาเข้ามาอยู่ได้เพียงระยะหนึ่ง หลังจากที่ช่วงแรกต้องอาศัยห้องเก็บของเสียนาน - กองม้วนเทปวงเทียนก้อมที่เหลือจากการจัดจำหน่ายครั้งล่าสุด วางซ้อนอยู่บนโต๊ะกินข้าว 4-5 ม้วนบนกล่องเทปมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ เป็นจดหมายที่พนักงานไปรษณีย์เพิ่งมาส่งได้ไม่นานนัก - จดหมายฉบับนี้พิเศษตรงที่ส่งผิดคนโดยบังเอิญ เข้าใจว่าคนส่งคงรีบร้อนไปหน่อย แง่มุมเล็กๆเพียงแค่นี้ถ้าเป็นคนทั่วไปคงมองข้ามไม่ได้ใส่ใจ แต่สำหรับคนที่มีวิญญาณศิลปิน เรื่องนี้นับเป็นวัตถุดิบชิ้นยอดที่พึงมิได้ เนื้อความในกระดาษบอกเล่าถึงเรื่องการงานและสารทุกข์สุกดิบธรรมดา แต่สลามานั่งเรียบเรียงด้วยจินตนาการเรื่องความรัก เพราะเป็นสิ่งกระทบใจคนในวงกว้างได้ค่อนข้างดี - แม้จะแต่งเพลงออกมามากพอสมควรแล้วก็ตาม แต่สลาก็ถูกวิจารณ์จากเพื่อนครูเสมอว่าแต่งได้เฉพาะเพลงช้าๆ ส่วนเพลงเร็วแต่งไม่เป็น ดังนั้นเพลงในจังหวะสนุกสนานในชื่อ จดหมายผิดซอง จึงเกิดขึ้นมาเงียบๆ - เริ่มแรกครูหนุ่มไม่ใส่ใจกับเพลงนี้มากนัก เพียงแต่ลองให้เพื่อนครูที่สอนภาษาไทยเอาไปให้เด็กนักเรียนร้องสนุกๆในชั่วโมงเรียนดู ปรากฏว่าเด็กชอบ และกลายเป็นเพลงฮิตในโรงเรียนขึ้นมาทันที ดังนั้น เมื่อมีกิจกรรมที่เด็กต้องเชียร์กีฬาเมื่อไร เพลงนี้ก็ได้รับการขับร้องด้วยความสนุกสนานอยู่ตลอด - “ พี่แสนดีใจ ได้รับจดหมายจากไปรษณีย์…จ่าหน้าซองถึงพี่ สอดซองสีนี้ไม่ใช่ใคร…พี่จำได้แน่นอน ว่าบังอรส่งถึงพี่ชาย เปิดอ่านดูข้างใน ต๊ายตายจดหมายผิดซอง…” - บทเพลงนี้ถูกเก็บไว้เพื่อรอเวลานำไปเผยแพร่ในช่วงอันเหมาะสมต่อไป - ว่ากันถึงวงเทียนก้อมบ้าง ต้นทุนสองหมื่นบาทที่มีคนช่วยออกทุนทำเทปชุดแรก สามารถขายคืนทุนได้หมดในเวลาไม่มากนัก นอกจากนั้นยังมีกำไรเหลือมาอีกไม่น้อย จนสลาต้องวางโครงการจัดกองทุนให้นักเรียนที่ด้อยโอกาสในตัวอำเภออีก เรียกได้ว่าผลงานชุดนี้บรรลุวัตถุประสงค์ทุกประการ - การขายแบบน้ำซึมบ่อทราย พอหมดก็มาปั้มใหม่ของวงเทียนก้อมทำให้นายห้างกรุงไทยออร์ดิโอสนใจจนขอซื้อมาสเตอร์เทปมาจัดจำหน่ายให้สลาและเพื่อนก็ตอบตกลงอย่างยินดี และขาดอัลบั้มนี้ในราคาพอประมาณ พวกเขาต้องเข้ากรุงเทพฯอีกครั้ง เพื่อเซ็นสัญญาและรับค่ามาสเตอร์เทปไปพร้อมๆกัน และนี้เป็นการจำหน่ายแบบเข้าสู้ระบบเป็นครั้งแรกของเทียนก้อม - เข้ากรุงเทพฯคราวนี้ เขาเอาเพลงจดหมายผิดซองไปฝากวิทยา กีฬา ช่วย ติดต่อ เผื่อมีใครสนใจอยากเอาเพลงนี้ไปร้อง ฝากกไปแล้วเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอีกเพราะหากไปตั้งความหวังไว้มากเกิน ก็มีแต่เป็นกังวลให้ทุกข์ใจเปล่าๆ - เทียนก้อมมีงานแสดงสดอย่างสม่ำเสมอในละแวกเมืองอำนาจเจริญและอุบลฯ ช่วงนี้สลาซุ่มเขียนเพลงใหม่ๆ เพื่อเตรียมทำอัลบั้มชุดที่ 2 กระตือรือร้น คราวนี้ต้นทุนเพิ่มจากเดิมกลายเป็นสามหมื่นกว่าบาทโดยมีวิทยา กีฬา เจ้าเก่าเป็นผู้ช่วยดูแลดนตรีเหมือนเคย - และชุดที่ 2 นี้เขาใช้ชื่อว่า กระดานร้าง - วงเทียนก้อมของชาวครูอำนาจเจริญ ดำเนินบทบาทของตังเองต่อไประยะหนึ่ง จนกระทั่งถึงจุดอิ่มตัวเพราะเพื่อนสมาชิกในวงหลายคนต้องย้ายข้ามถิ่นไปโรงเรียนอื่น บางคนไปไกลถึงต่างจังหวัด มีผลทำให้องค์ประกอบในวงไม่สมบูรณ์ และต้องเลิกราไปเงียบๆในที่สุด - หากแต่ในใจลึกๆ ของเขา ยังหวังเสมอว่าหากมีโอกาสเขาอยากทำอัลบั้มเทียนก้อมอีกสักชุด อย่างน้อยเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการเริ่มต้นของตัวเองในช่วงวัยหนุ่ม - สายลมฤดูกาลโชยพัดเป็นระลอก แผ่คลื่นความปรวนแปรของชีวิตมาด้วย คลื่นอันนี้ถ้าโถมเข้าไปในหัวใจของครูหนุ่มเงียบๆแต่รุนแรง ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยหน่ายท้อแท้ต่อสิ่งรอบตัวอย่างบอกไม่ถูก ไฟฝันที่เคยร้อนแรงบัดนี้ถูกวันเวลาลึกลับกัดกร่อนจนแทบหรี่โทรม แม้จะเริ่มต้นได้ดีกับวงเทียนก้อม แต่ก็ดูเหมือนความก้าวหน้าบนเส้นทางนี้ จะหยุดเพียงแค่ระดับนั้น - หากลองพิเคราะห์ย้อนหลังสาเหตุที่ทำให้สลาเกิดอาการดังกล่าว คงเป็นเพราะวงจรชีวิตที่เรียบง่ายและหยุดนิ่งเกินไป ซึ่งขัดแย้งกับช่วงวัยหนุ่มของตัวเอง - เขาอยู่ในความจำเจในบ้านพักครูหลังเล็กๆ จนกระทั่งมีข่าวดีที่ทำให้กระตือรือร้นขึ้นมาบ้าง นั่นคือเพลง จดหมายผิดซอง ได้รับคำชมเชยจาก สุรินทร์ ภาคศิริ ครูเพลงรุ่นใหญ่ และมีแนวโน้มว่าจะมีค่ายเทปสนใจซื้ออย่างแน่นอน ♫ ♫ ♫ - หากเปรียบเพลง จดหมายผิดซอง กับการเดินทาง บทเพลงก็ใช้เวลาร่วม 2 ปีทีเดียวกว่าได้บันทึกเสียงเป็นรูปเป็นร่างให้คนได้ฟังกันตามสื่อต่างๆแล้วระยะเวลา 2 ปีที่วงเทียนก้อมเลิกไป และจดหมายผิดซองยังไม่มีใครรู้จัก สลากำลังทำอะไรอยู่? - คำตอบคือ คราวนี้เขามุ่งมั่นจะเป็นนักเขียนอย่างจริงจังตามแบบนิมิต ภูมิถาวร ที่หลงใหล ศรัทธาขนาดเจียดเงินครูบ้านนอกซึ่งน้อยอยู่แล้วไปซื้อพิมพ์ดีดมาเครื่องหนึ่ง ฝึกพิมพ์จนช่ำชอง ตั้งหน้าตั้งตาลุยเขียนเรื่องสั้นและบทกวีอย่างหนัก - ระยะนั้นสลาส่งผลงานไปตามนิตยสารต่างๆ มากมาย แต่ก็โดนตีกลับเป็นส่วนใหญ่ มีไดลงพิมพ์ค่อนข้างน้อย ซึ่งทำให้ท้อใจอยู่เหมือนกัน(เรื่องสั้น “ นางเอก” และบทกวี 3-4 บทได้ลงนิตยสารฟ้าเมืองทองในนามปากกา “ศรีลัดดา”) ความหวังอย่างหนึ่งของสลาในตอนนั้นคือ อยากคบหาคนเขียนหนังสือเหมือนๆกัน เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะและช่วยติชมวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของกันและกันได้บ้าง อย่างน้อยก็เป็นการฝึกปรือฝีมือได้อีกทางหนึ่ง
อ่าน่ต่อตอน 7.2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น